วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คุยกับพี่ขายเครื่องหอมไทย


หลายวันก่อนแวะไปบ้านพี่ที่รู้จักกันเค้าทำงานสินค้าโอทอปพวกน้ำอบน้ำปรุง แป้งร่ำ เครื่องหอมไทย
เพื่อไปซื้อน้ำอบกลิ่นกุหลาบ
ไปฝากผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ เนื่องจากกลัวว่าพอถึงวันที่ต้องใช้ของจะขาดตลาด ซื้อไว้ก่อนกันเหนียว ตอนแรกโทรไปถามราคาแทบจะเป็นลม แต่เมื่อเห็นขนาดของจริงซึ่งเยอะมาก ได้รู้ถึงวิธีการทำที่ยากลำบาก และการคัดสรรวัตถุดิบที่ใช้ปรุงน้ำอบ ขอบอกว่าไม่แพงเลย (ขนาด 50-60มล.)
น้ำอบที่นี่มีหลายกลิ่นเช่น มะลิ ลีลาวดี จันทร์กระพ้อ จำปี และกลิ่นดอกไม้ไทยนานาชนิดอีกมากมาย พี่คนขายแอบกระซิบว่า หาซื้้อไม่ได้ตามท้องตลาดทั่วไปนะจ้ะ เพราะการผลิตนั้นแต่ละขั้นตอนเป็นแบบไทยโบราณแท้ๆ ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำเป็นนั้นมีน้อยมาก ของเค้าน่ะต้นตำหรับของแท้ สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวดแน่ะ

พี่เค้ายังเล่าให้ฟังอีกว่าแต่ก่อนเปิดร้านอยู่แถวๆการไฟฟ้าท่ายาง(ใหม่)ค่าเช่าเดือนละ5000บ แทบไม่มีลูกค้าเลย พี่เค้าเป็นคนนนทบุรีแรกๆคิดว่าคนเพชรบุรีจะมีตังซื้อง่ายขายคล่อง ที่ไหนได้คิดผิดถนัด      เจ้งกันไปเลยทีเดียวเชียว เราก็เลยบอกว่าคนเพชรบุรีอาจมีตังนะแต่เค้าไม่ค่อยใช้จ่ายกันสักเท่าไหร่  เพราะว่าเงินทำยาก การจ้างงานก็ไม่มาก(จริงๆแล้วคนเพชรบุรีงก อิอิ)

ตอนหลังๆเค้าชักทนจ่ายค่าเช่าร้านขายเครื่องหอมไทย ไม่ไหวก็เลยเลิกเช่า ย้ายไปอยู่บ้านแฟนซึ่งอยู่ในเพชรบุรีนี่เองประหยัดกว่า ส่วนเครื่องหอมที่ทำได้ก็ส่งไปให้แม่ขายที่เมืองทอง และออกร้านสินค้าโอทอปตามจัหงวัดต่างๆ ครั้งหนึ่งเคยไปออกร้านที่ทางภาคตะวันออกแถวนั้นเป็นพวกเศรษฐีสวนทุเรียนขายได้วันละแสนกว่าบาท ไปออกร้านทางใต้ก็ขายได้วันละเป็นแสนๆ พี่บอกว่าต้องเอากระสอบมาใส่เงินกันเลยทีเดียว(มันมากมายขนาดนั้น) 

แต่พอมาออกร้านที่เพชรบุรี พวกขายสินค้าโอทอปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า"มาขายสินค้าโอทอปที่เพชรบุรี มานอนหลับได้หรอก" เพราะว่าขายกันไม่ค่อยดีแต่ที่ต้องมาเพราะทางโอทอปเค้าบังคับให้มา หากใครไม่มาก็จะโดนตัดสิทธิ์ไม่ให้ไปขายที่อื่นด้วย

หากเจอสินค้าโอทอปมาออกร้านพี่น้องชาวเพชรบุรีช่วยกันอุดหนุนหน่อยนะคะ สงสารแม่ค้าที่มาออกร้านค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น